วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2565

ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการเรียนภาษาจีน

 


        เชื่อว่าหลายคนอยากเรียนภาษาจีนเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ความสามารถทางภาษา เพื่อดูซีรีย์จีน ท่องเที่ยวประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเอาเป็นว่าถ้าอยากเรียนภาษาจีนก็แปลว่ามีทัศนคติที่ดีต่อภาษานี้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เรียนแล้วจะไปถึงฝั่งฝันหากยังมี mind set หรือชุดความคิดที่ผิดๆดังต่อไปนี้


1. เร่งเวลาเรียน


        การเรียนภาษาต่างประเทศที่เป็นภาษาที่3ห้ามเร่งเด็ดขาดนะคะ!! เพราะเราต้องใช้ความพยายามค่อนข้างมากเวลาเรียน เร่งรัดเวลาแล้วจะไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวนักเรียนและอ.ผู้สอนด้วยค่ะ ข้อเสียของการเร่งเวลาก็คือ ผู้เรียนจะเรียนเนื้อหาได้ไม่ครอบคลุมเท่าที่ควรเวลานำไปใช้ในสถานการณ์จริงจะเห็นได้ชัดว่าเรียนตกหล่น เพราะอ.ผู้สอนจำเป็นต้องตัดทอนเนื้อหาบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการสอนและฝึกฝนผู้เรียนออกไปให้ทันเวลา วิธีนี้จากประสบการณ์แล้วคิดว่าไม่เวิร์คเลย


2. ไม่ขยัน



        คุณสมบัติข้อนี้นับว่าสำคัญสุดๆในการเรียนภาษาจีนไม่ว่าจะหลักสูตรไหนก็ตาม เพราะถ้าหากล้มเลิกกลางคันก็หมดสิทธิ์ได้ไปต่อทันที


3. เรียนแต่พินอิน ไม่เรียนเขียนตัวจีน


        หากใครมีชุดความคิดแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับอยากเรียนแพทย์แต่ไม่ยอมเรียนคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เรียนว่ายน้ำแต่ไม่ยอมลงสระ เรียนทำอาหารแต่ไม่ยอมเข้าครัว เหตุผลก็คือ เวลาที่ใช้ภาษาจีนในการสื่อสารในสถานการณ์จริงไม่มีคนจีนคนไหนสื่อสารด้วยตัวพินอิน เพราะฉะนั้น พินอินจำเป็นต้องเรียนตอนเริ่มต้น ส่วนตัวจีนจำเป็นต้องจำได้ระดับนึง หมายความว่า จำให้พออ่านออกเขียนได้นะ เวลาอ่านข้อความตามโซเชียลจะได้แยกแยะออกว่าแต่ละประโยคที่เจ้าของภาษาเค้าพิมพ์มามันหมายความว่าอย่างไร ถ้ายังจำไม่ได้ทุกขีดก็ไม่เป็นไร ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาค่ะ ซึ่งแต่ละคนช้าเร็วไม่เท่ากัน


4. ไม่ทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ


        หากทำข้อนี้ผลเสียที่จะตามมาก็คือ
        - ไม่สามารถเรียนต่อในบทเรียนต่อไปหรือคอร์สที่สูงกว่านี้ได้
        - ของเก่าที่เรียนมาก็จะลืม
        - การเรียนไม่ต่อเนื่อง ทำให้เรียนไม่รู้เรื่องและหมดกำลังใจที่จะเรียนต่อ


5. เรียนหรือทบทวนภาษาจีนผิดวิธี


        ข้อนี้เหล่าซือเจอมาเยอะมาก เพราะนักเรียนหลายคนไม่เชื่อฟังวิธีการที่เหล่าซือสอนไป โดยเฉพาะนักเรียนระดับ Beginers ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียนหรือประกอบอาชีพทางสายวิทย์ เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร เภสัช เพราะส่วนใหญ่คนที่ถนัดทางด้านการคำนวณมักจะไม่ถนัดวิชาทางด้านการใช้ภาษา(เป็นเรื่องปกติ) หลายคนเรียนตามกระแสซีรีย์และมักจะทบทวนผิดวิธี บางคนเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ต้องให้โลกหมุนรอบตัวเค้าเองเท่านั้น บางคนจะมาพยายามเปลี่ยนระบบการสอนของเรา(บอกเลยว่าคนแบบนี้เรียนกับเหล่าซือได้ไม่นาน และเราเองไม่อยากสอนคนประเภทนี้ด้วย) บางคนทบทวนตอนง่วงนอน ไม่สบาย ปวดหัว หรืออะไรก็ตามในสภาวะร่างกายและจิตใจไม่พร้อม แนะนำว่าทางที่ดีคือไปทำตัวเองให้สดชื่นก่อน อาจจะเป็นการอาบน้ำให้สบายตัวหรือนอนหลับพักผ่อนซัก 1 ชม. แล้วค่อยๆทบทวนบทเรียน

        อีกวิธีหนึ่งที่อยากบอกนักเรียนทุกคนก็คือ ทุกครั้งที่เราท่องจำหรือฝึกเขียนตัวจีนจำเป็นต้องมีพินอินคอยนำในการจำศัพท์ ถ้ายังเขียนไม่ค่อยแม่นอย่าพยายามเขียนออกมาจากสมองโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่เกิดผลดีใดใดแล้วยังจะทำให้กดดันอีกด้วย และที่สำคัญ อย่าฝึกเขียนตัวจีนที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อนไปพร้อมๆกับการฟังเพลง เพราะสมองเราจะไม่ได้โฟกัสที่การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ แต่จะไปโฟกัสที่เพลงแทน ซึ่งต่อให้ท่องติดต่อกันนานๆก็ไม่เข้าหัว แต่ถ้าในกรณีที่เราเขียนคล่องแล้วแต่อยากคัดไว้เพื่อกันลืม อันนี้ก็สามารถทำได้ค่ะ 


        ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมานี้คือประสบการณ์สอนจริงที่เจอนักเรียนแต่ละเคสมา เจอมาหลากหลายรูปแบบค่ะ หากใครอ่านบทความนี้แล้วไม่ถูกใจ หรือคิดว่าวิธีการจำศัพท์ของตัวเองที่ใช้อยู่ในปัจจุบันดีสำหรับตัวเองอยู่แล้วก็ไม่ไเป็นไรค่ะ เหล่าซือแค่เอาประสบการณ์จริงมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันไว้ประกอบการพิจารณา ขอแค่เราเรียนภาษาจีนแล้วเรามีความสุขก็พอ


ใครไม่ชอบเลื่อนผ่านไป ขออภัยที่โลกสวยไม่เป็น


不经一事、不长一智 ประสบการณ์ทำให้เราเติบโต


-- Tutor Fha --


สนใจเรียนภาษาจีนกับ Tutor Fha Click!

https://www.facebook.com/Chinesetutorfha





วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565

สถาบันกวดวิชาหรือว่ารังโจร??


        มีสถาบันกวดวิชาอยู่หลายที่ที่แฝงตัวมาในคราบคุณครูผู้ใจดี แต่ร่างที่แท้จริงมันคือมิจฉาชีพที่หากินบนความทุกข์ของคนอื่น แล้วขึ้นชื่อว่ามิจฉาชีพมันไม่ได้มีแค่ตามที่เป็นข่าวในทีวีเท่านั้น มันได้แฝงตัวไปยังทุกวงการทุกสาขาอาชีพ แม้กระทั่ง วงการติวเตอร์หรือกวดวิชา!!

        อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไกลตัว เพราะใครที่ไม่เคยเป็นติวเตอร์ เคยทำงานกับนายหน้าแล้วโดนนายหน้าในคราบสถาบันโกง ผู้ปกครองที่หาที่เรียนพิเศษให้บุตรหลาน หรืออะไรก็ตามที่ถ้าไม่โดนมากับตัวเองก็มักจะไม่รู้ และยังคิดว่าพวกสถาบันหรือนายหน้าน่าเชื่อถือกว่าติวเตอร์อิสระ(เปลี่ยนความคิดใหม่ตอนนี้ยังไม่สายนะ)

        หากพบเจอนายหน้าหรือสถาบันไหนก็ตามที่เข้าข่ายลักษณะดังต่อไปนี้ หลีกให้ห่างเลยนะคะ อย่าเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด!! ขอเตือนด้วยความหวังดี(เตือนแล้วนะ ใครจะฟังหรือไม่ก็แล้วแต่ เพราะถือว่าเราทำหน้าที่ในขอบเขตของเราดีที่สุดแล้ว โทษเราไม่ได้นะ)


ในแง่ติวเตอร์:

1. โพสต์สั่วๆ โพสต์ลวกๆ 


        ถ้าเห็นโพสต์ตามกลุ่มสาธารณะต่างๆ ว่า "หาครูสอนวิชา....."/"รับสมัครติวเตอร์จำนวนมาก" แล้วโพสต์นั้นเป็นโพสต์ข้อความลักษณะนี้เฉยๆ ไม่ได้บอกว่ามาจากที่ไหน ไม่มีโลโก้(ขนาดมียังไม่น่าไว้ใจ) ไร้แหล่งที่มา พึงสังวรณ์เอาไว้เลยว่านายหน้าชัวร์ เพราะไอ้พวกนี้มันจะไม่แสดงตัวตนที่แท้จริงของมันออกมาให้ชาวโลกเห็นจนกว่าจะได้สูบเลือดสูบเนื้อของติวเตอร์จนหมด พูดง่ายๆ มันทำตัวเหมือนผีพรายที่ทรยศคนเลี้ยง


2. คำพูดชักชวนหว่านล้อมสวยหรูเกินจริง

        
        เสต็ปประมาณ "ต้องการติวเตอร์จำนวนมากน้า"/"รีบสมัครน้า"/"งานตรึมมากเลยน้า" และที่สำคัญ ติวเตอร์ที่ยังอ่อนทั้งประสบการณ์สอนและประสบการณ์ชีวิตซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา มักจะหลงระเริงไปกับคำพูดที่ว่า "ไม่มีค่าแนะนำ" หรือถูกหลอกล่อด้วยฐานเงินเดือนที่สูงเกินกว่าเหตุ ซึ่งเราได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นจริงแบบที่มันพูดเลย 

        คำพูดพวกนี้มันเป็นแค่จิตวิทยาในการดึงดูดชักชวนคนมาสนใจก็แค่นั้น ก่อนจะลงมือทำอะไรต้องคิดให้เยอะๆ แล้วไอ้คำพูดที่ว่า "ไม่มีค่าแนะนำ" อ่ะ มันไม่มีอยู่จริงหรอก มันเอางานสอนมาโพสต์ ใส่ราคาเสร็จสรรพ นั่นแหละคือการหักค่านายหน้าไว้แล้ว หากหลวมตัวเข้าไปในวงจรอุบาทก์นี้แล้วล่ะก็โดนมันเชือดทั้งขึ้นทั้งร่อง ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อรอง ต้องทำตามข้อปฏิบัติที่มันได้ตั้งไว้ทั้งหมดเพราะได้หลงเข้าไปอยู่ใน comfort zone ของมันแล้ว อำนาจทุกอย่างอยู่ในกำมือมัน  เปรียบเทียบง่ายๆ เวลาเราไปซื้อของขวัญจับฉลากแล้วทางร้านแปะป้ายว่า "ห่อฟรี" นั่นแหละ หลักการเดียวกัน เพราะมันหักค่าห่อไว้ในค่าของขวัญเรียบร้อยแล้ว คนไม่รู้จักกันไม่มีใครเค้ามาหางานให้เราฟรีๆ หรอก ถึงมีจริงเราก็ต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไปเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน จำใส่กะโหลกเอาไว้เลย!! ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ ไม่มีใครมาทำอะไรให้เราฟรีๆ ย้ำอีกครั้ง จำ!!!


3. เมื่อสมัครงานกับทางสถาบันไปแล้วมันให้เราทำงานนอกเหนือจากการสอนวิชา


        หากเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ หนทางในการเอาตัวรอดคือ ลาออกซะ ไม่ว่ามันจะเหนี่ยวรั้งโดยการขึ้นเงินเดือนหรืออะไรก็ตามแต่ อย่าไปฟังมัน!! เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเอาตัวเองไปอยู่ในดงโจร เสต็ปนี้ส่วนใหญ่ติวเตอร์ที่ยังเป็นนักศึกษา น้องๆ ที่เพิ่งเรียนจบและอยู่ระหว่างการหางาน หรือคนที่เพิ่งเคยเข้ามาสัมผัสในวงการกวดวิชามักจะเจอ ตัวเหล่าซือเองก็เคยเจอ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แต่เหล่าซือเจอแบบในทำนองหลอกใช้ให้ทำงานด้วยเสต็ปขั้นเทพอย่างเหนือความคาดหมาย แล้วมันเบี้ยวเงินเดือนเดือนสุดท้าย แถมมาด่าเราด้วย อยากตามเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุดแบบเอามันเข้าคุกแล้วขังลืมให้ตายคาคุกไปเลย แต่มาชั่งใจดูอีกที จำนวนเงินที่มันเบี้ยวเราไม่เยอะ เลยไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งเลยดีกว่า ให้กฎแห่งกรรมเค้าทำงานไป อีกลักษณะหนึ่งก็คือ มีน้องติวเตอร์คนนึงเล่าให้ฟังว่าไปสมัครงานกับสถาบันแห่งหนึ่งแล้วมันให้น้องติวเตอร์คนนั้นทำงานบ้านถูพื้นสถาบัน ถ้าใครเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ทำได้แล้วเราไม่ผิดด้วย บอกมันไปเลยว่า "การถูพื้นไม่ใช่หน้าที่ของติวเตอร์ค่ะ เป็นหน้าที่ของแม่บ้าน" การเป็นติวเตอร์คือหน้าที่ของเราแค่สอนวิชาเท่านั้น ถ้ามันมาพูดทำนองว่า "นี่คือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้งาน" แปลว่ามันหลอกใช้เราเต็มๆ ในรูปแบบคำพูดที่ฟังดูมีอำนาจโดยการเล่นเกมส์กับความอ่อนประสบการณ์ชีวิตและความเกรงใจของติวเตอร์ท่านนั้น หากใครเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ เอาตัวเองออกห่างจากแหล่งซ่องสุมนี้ให้ไวที่สุด


        และย้ำอีกครั้งนะ คำว่า"ติวเตอร์"คือผู้ทำหน้าที่สอนหรือถ่ายทอดวิชาความรู้เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่อย่างอื่นนอกเหนือจากการสอนหรือการถ่ายทอดความรู้


4. ได้รับการติดต่อแบบไร้ที่มา


        หากมีไลน์จากคนแปลกหน้าหรือโทรศัพท์เข้ามาหาเราแล้วบอกว่า สนใจอยากให้เราไปเป็นติวเตอร์ให้กับสถาบันเค้า หรือบางคนเคยเจอแบบแอดไลน์มาแล้วบอกว่า พอดีเจอคนที่อยากเรียนด้วย แต่ให้เราไปคุยกับอีกคนนึง นี่แหละไอ้พวกนายหน้า100% คำพูดมันกลับกลอกไปได้ร้อยแปดพันเก้า ถ้ารู้ตัวว่าโดนแล้วล่ะก็พาตัวเองออกมาให้ไวที่สุดเท่าที่จะไวได้เช่นกัน 


5. กดราคาค่าตอบแทน


        เห็นมาหลายที่แล้วโดยเฉพาะสถาบันที่มีวิชาที่สอนการใช้ทักษะยากๆ ไม่ว่าวิชาอะไรก็ตาม ไอ้พวกดงโจรพวกนี้มันจะกดราคาต่อชม.ไม่ถึง300 ซึ่งเหล่าซือคิดว่าน่าเกลียดมาก บางที่กดราคาชม.ละ100-150/ชม.ก็มี ข้อมูลล่าสุดที่ได้มามีติวเตอร์คนนึงโดนกด 40/ชม. เลยบอกเค้าว่าออกมารับสอนเองเหอะ


        จริงๆ แล้วยังมีกลลวงที่ไอ้พวกมิจฉาชีพในคราบสถาบันการศึกษามันใช้หว่านล้อมให้ติวเตอร์มาทำงาน เราทำอะไรมันไม่ได้ก็จริง แต่สิ่งที่เราทำได้คือหาหนังสือแนวจิตวิทยามาอ่านมาศึกษาเพิ่ม เพื่อให้รู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อมันอีก หรือศึกษาจากช่องในยูทูปต่างๆก็ได้ และอย่าลืมนะว่าออกห่างจากสถาบันไปแล้วมันจะไม่แปลงร่างเป็นมิจฉาชีพในรูปแบบอื่น ยุคนี้เราต้องระวังทุกฝีก้าว อย่าชะล่าใจเด็ดขาด!!



ในแง่นักเรียน/ผู้ปกครอง:

1. หว่านล้อมด้วยคำพูดขายฝันเกินจริงที่เกี่ยวโยงถึงอนาคตบุตรหลานในระยะยาว


        
        ทำนองที่ว่า "สมัครเรียนกับเราแล้วลูกคุณจะสอบติดแน่นอน"/ "เรียนแล้วเอาไปใช้ได้ตลอด"/ "ถ้าไม่เรียนพลาดโอกาสนะ ลูกคุณมีสิทธิ์สอบตกนะ" หรืออะไรแนวๆ นี้ ถ้าเจอ ให้ตั้งสติให้มั่นก่อนจะเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปให้มันถลุงเล่น

        จริงๆ ไม่มีไรมาก ไอ้พวกนี้มันแค่ใช้จิตวิทยาหลอกล่อให้คนเคลิ้มไปกับคำพูดแกมข่มขู่และหวาดกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากไปหลงเชื่อมัน สิ่งที่จะสูญเสียไปคือเงินค่าคอร์สเรียนแพงหูฉีกเกินความจำเป็นจริงของบุตรหลาน และหากดวงซวยไปเจอสถาบันhereๆแล้วล่ะก็ จะเจ็บกระดองใจยันลูกบวชเลยละ จากประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับสถาบัน สันดานมันhereเอาเปรียบติวเตอร์และนักเรียนแทบทุกที่(แม้แต่สถาบันที่ถูกกฎหมาย) เพราะฉะนั้น เวลาเจอคนของสถาบันมาหว่านล้อมต้องตั้งสติให้มั่นและใจแข็งเข้าไว้ อย่าไปเคลิ้มตามมัน ฝึกฝนได้โดยการฟังธรรมะเยอะๆ(ในยูทูปมีเยอะแยะ)


2. เจอติวเตอร์ที่ไม่ช่ำชองในวิชาที่สอน


        หากสมัครเรียนแล้วเจอติวเตอร์ประเภทไม่ได้เก่งจริงตามที่มันโฆษณาไว้ สอนไปเสิร์ชกูเกิลไป หรือชอบติดคำพูดที่ว่า"เดี๋ยวไปค้นคว้ามาให้" แปลว่าที่นี่ไม่ได้ดีจริง และติวเตอร์คนนั้นก็ไม่ได้เก่งจริง ถ้ารู้ตัวแล้วละก็ เผ่นเลย ไปหาติวเตอร์ดีๆสอนเหอะ ติวเตอร์อิสระดีๆยังมีอีกเพียบ


3. เก็บค่าเรียนแพงเกินเหตุ

        
        กรณีนี้จะเจอกับสถาบันที่มีสอนกวดวิชาเข้าคณะทางแผนวิทย์ เช่น แพทย์ วิศวะ เภสัช วิทยาศาสตร์ หรือสอนภาษาต่างประเทศที่มีภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น หรือภาษาอื่นๆที่เก็บค่าเรียนหลักหมื่นขึ้นไป แต่ติวเตอร์ที่เค้าสอนดีจริงๆก็มี อันนี้นักเรียนและผู้ปกครองต้องเลือกให้ดี ทางที่ดีคือลองขอทดลองเรียนดูก่อน ถ้าแนวสอนของติวเตอร์ท่านนั้นถูกจริตเราจริงๆค่อยจ่ายเงินลงคอร์สเรียนกับเค้า


        สุดท้ายนี้จะยังปิดท้ายบทความเหมือนเดิม ใครไม่ชอบเลื่อนผ่านไป ขออภัยที่โลกสวยไม่เป็น


และฝากถึงพวกสถาบันที่ทำตัวเป็นมิจฉาชีพ
กฎหมายอาจมีอายุความ แต่กฎแห่งกรรมไม่มีอายุความ


-- Tutor Fha --


สนใจเรียนภาษาจีนกับ Tutor Fha Click!

https://www.facebook.com/Chinesetutorfha



ผู้ปกครองแบบไหนที่ติวเตอร์ไม่Love

                      ได้อ่านเคสที่เป็นนักเรียนไปแล้ว คราวนี้เรามาดูเคสผู้ปกครองกันบ้าง แต่ละคนที่เจอมานี่สุดยอดแห่งผู้ปกครองชั้นเลวที่ติวเต...