วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564

การเรียนพิเศษกวดวิชากับสถาบัน นายหน้า หรือเรียนกับติวเตอร์โดยตรงแบบไหนดีกว่ากัน????


        นับว่าเป็นดราม่าค่อนข้างยืดเยื้อสำหรับการเจอนายหน้าเก็บค่าแนะนำกับติวเตอร์แพงมากเกินเหตุ และในขณะเดียวกันผู้เรียนบางจำพวกก็มักจะไปให้ราคากับนายหน้าหรือสถาบันที่เค้าโฆษณาขายฝันเกินจริง วิชาอื่นเหล่าซือไม่รู้นะ จะพูดแต่ในมุมของวิชาภาษาจีนละกัน แต่จากที่ศึกษาหาข้อมูลมา ติวเตอร์ส่วนใหญ่มักไม่พอใจที่โดนสถาบันหรือนายหน้าเอาเปรียบ ซึ่งเหล่าซือก็เป็นหนึ่งในจำนวนคนที่ไม่พอใจ หากวิเคราะห์และชั่งน้ำหนักอย่างสมเหตุสมผลอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พวกสถาบันเค้าเอาเปรียบติวเตอร์กับนักเรียนเกินไปจริงๆ    

โดยจะอธิบายในทั้งมุมของติวเตอร์ และนักเรียนนะคะ


มุมของติวเตอร์:

       

        จากที่เคยหลวมตัวเข้าไปทำงานให้กับสถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่งค่อนข้างจะมีชื่อเสียงแบบมึนๆ ข้อดีมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นข้อเสีย แต่ยังไงก็จะอธิบายอย่างละเอียดละกัน


ข้อดี    1. หาคนมาให้เราสอนเยอะ

ข้อเสีย 1. ได้ค่าตอบแทนไม่คุ้มกับความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา พูดง่ายๆ เงินเดือนน้อยมาก ไม่คุ้มเหนื่อยเลย

            2. ถ้าเจอนักเรียนน่ารักก็โชคดีไป แต่ถ้าดวงซวยเจอนักเรียนประเภทเฮงซวยนี่ปวดหัวเลย อยู่ๆ ก็เทเราซะงั้น ไม่ฟังคำแนะนำของอาจารย์ผู้สอนเลย เอะอะจะเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นบรรทัดฐาน เหมือนเอาเงินมาโยนทิ้งเล่นๆ เรียนเหมือนไม่อยากเรียน (ไม่ได้ว่านักเรียนทุกคนนะ คนที่เคยเรียนกับเหล่าซือแล้วโอเคกับแนวการสอนของเหล่าซือก็รักษาความน่ารักความตั้งใจต่อไปค่ะ ที่พูดนี่คือนักเรียนบางคนเท่านั้น)

           3. แทบไม่มีเวลากินข้าว เพราะเจ้าหน้าที่แอดมินเอาแต่ประโคมนักเรียนมาให้เราสอน

           4. ติวเตอร์เสียสุขภาพจิต

           5. ทางสถาบันนึกอยากจะเปลี่ยนนักเรียนก็เปลี่ยนซะงั้น ไม่แจ้งเหตุผลอะไรเลย

           6. เวลาเจอปัญหาอะไรที่เกิดจากความผิดพลาดในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางสถาบันเค้ามักจะไม่ฟัง ชอบพูดจาให้ตัวเองพ้นผิด โยนขี้ใส่คนอื่น ปากบอก "รับทราบค่ะ" แต่ไม่คิดจะลงมือแก้ปัญหาอะไรเลย ทำผิดแล้วก็ไม่ยอมรับผิด ซึ่งเวลาเหล่าซือทำงานแล้วเจอปัญหาแบบนี้มันส่งผลต่ออารมณ์ของเราในวันนั้นด้วยนะ มันแสดงถึงความไม่มืออาชีพในการทำงานของเจ้าหน้าที่สถาบัน 


มุมของนักเรียน:

ข้อดี    1. วางจำนวนเงินไป เดี๋ยวทางสถาบันหรือนายหน้าก็หาติวเตอร์มาให้เราเองตามเรทราคาที่นักเรียนกำหนด


ข้อเสีย  1. หากนักเรียนสักแต่จะเอาค่าเรียนถูกๆ อย่างเดียว ก็อาจจะได้ติวเตอร์ที่ยังไม่เก๋าประสบการณ์มาสอน ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อความรู้ที่เราจะได้รับในระยะยาว แล้วก็ต้องเปลี่ยนติวเตอร์ไปเรื่อยๆ ของดีราคาถูกมันไม่มีในโลกอยู่แล้ว หากอยากจ่ายค่าเรียนถูกๆ ก็อาจจะไปเจอติวเตอร์มือสมัครเล่น ยังไม่ช่ำชองในวิชาที่ตัวเองสอนเท่าที่ควร(ก็สมกับราคาที่นักเรียนรีเควสมาไง)

             2. ในกรณีที่นักเรียนไม่ได้ติวเตอร์ที่ถูกใจมักจะไปฟูมฟายตามเพจต่างๆ ว่าหาครูสอนไม่ได้ซักที ซึ่งแต่ละคนก็ตรรกะความคิดค่อนข้างที่จะบิดเบี้ยวพอควร เคยเจอคนโพสต์หาติวเตอร์สอนภาษาจีนแค่ชม.ละ 80 เอิ่มนะ ซึ่งบางคนเสียเวลาหาติวเตอร์ตามเงื่อนใข(บ้าๆ บอๆ)ที่ตัวเองตั้งขึ้นมาจนไม่ทันเรียนไม่ทันสอบก็มี

            3. หา passion ในการเรียนไม่เจอ เพราะไปเชื่อเซลล์ขายคอร์สเรียน เซลล์บางคนเค้าอาจจะไม่มีความรู้ในการเรียนภาษาจีน เค้ามุ่งแต่จะทำยอดขายให้สถาบัน ถ้าเค้าทำสำเร็จเค้าก็ได้รับเงินเดือนและค่าคอม แต่นักเรียนจำพวกนี้มักไม่เชื่อฟังคำแนะนำของติวเตอร์หรืออาจารย์ผู้สอน สุดท้ายก็เสียเงินค่าคอร์สเรียนไปฟรีๆ แล้วก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลยก็มี เพราะการแนะนำคอร์สเรียนควรจะคุยกับอาจารย์ผู้สอนโดยตรงมากกว่า เพราะติวเตอร์จะผ่านประสบการณ์สอนนักเรียนมาเยอะ จะมองออกว่าคอร์สไหนเหมาะสมกับนักเรียนระดับไหน ถ้าเป็นสถาบันเค้าไม่สนหรอก เค้าสนเงินอย่างเดียว แล้วเค้าก็ไม่สนด้วยว่าเราเรียนไปจะได้รับความรู้เต็มเม็ดเต็มหน่วยรึป่าวเพราะถือว่าจ่ายเงินแล้วก็จบกัน

        

        
        ที่วิเคราะห์มาทั้งหมดคือจากประสบการณ์ที่ทำงานในสายอาชีพนี้ค่อนข้างนาน และอยากให้นักเรียน
หรือใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาติวเตอร์ อย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณาขายฝันเกินจริงของสถาบันมากเกินไป และไม่ควรไปให้ค่าสถาบันพวกนี้เพียงแค่เพราะฉากหน้ามันดูน่าเชื่อถือ เพราะคนที่เค้าเหน็ดเหนื่อยและทุ่มเทกับการสอนคือติวเตอร์ ไม่ใช่นายหน้าหรือสถาบัน คนเก่งจริง คนที่ควรให้คุณค่าจริงๆ คือติวเตอร์ เพราะฉะนั้น ควรให้ราคากับติวเตอร์ที่เค้าทุ่มเทกับการสอนการทำงานอย่างเต็มที่จะดีกว่า ส่วนเรื่องค่าเรียน การเรียนแบบติดต่อกับติวเตอร์โดยตรงจะเซฟค่าใช้จ่ายมากกว่าการสมัครเรียนผ่านนายหน้าหรือสถาบัน ซึ่งติวเตอร์จะคิดค่าเรียนแบบสมเหตุสมผลค่ะ ส่วนจะเลือกเรียนแบบไหนดีกว่าก็แล้วแต่นักเรียนจะพิจารณาตามบทความที่เขียนมาทั้งหมดละกัน เพราะมันเป็นหน้าที่ของนักเรียนหรือผู้บริโภคซึ่งก่อนจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการอะไรละก็ควรคิดหน้าคิดหลัง ชั่งตวงวัดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเสียเงินเรียน ถูกแพงไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญว่าจ่ายเงินเรียนไปแล้วมันคุ้มค่ากับความรู้ที่เราจะได้รับมารึป่าว เหล่าซือไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินหรือชี้เป็นชี้ตายอะไรทั้งนั้นแหละ

       สุดท้ายนี้ก็จะยังปิดบทความเหมือนเดิมนะ ใครไม่ชอบเลื่อนผ่านไป แค่ฝากไว้ให้คิด ขออภัยที่โลกสวยไม่เป็นค่ะ


                                                                    -- Tutor Fha --


สนใจเรียนภาษาจีนกับ Tutor Fha Click!

https://www.facebook.com/Chinesetutorfha

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ปกครองแบบไหนที่ติวเตอร์ไม่Love

                      ได้อ่านเคสที่เป็นนักเรียนไปแล้ว คราวนี้เรามาดูเคสผู้ปกครองกันบ้าง แต่ละคนที่เจอมานี่สุดยอดแห่งผู้ปกครองชั้นเลวที่ติวเต...