ได้อ่านเคสที่เป็นนักเรียนไปแล้ว คราวนี้เรามาดูเคสผู้ปกครองกันบ้าง แต่ละคนที่เจอมานี่สุดยอดแห่งผู้ปกครองชั้นเลวที่ติวเตอร์ไม่อยากเข้าใกล้ สมัยนี้อย่าคิดว่าคนที่มีลูกมีครอบครัวแล้วจะเป็นคนที่มีเหตุผลกันหมดทุกคน เพราะเท่าที่เจอผู้ปกครองมา บางคนไม่มีความเป็นผู้ใหญ่+ไม่มีหัวคิดก็เยอะแยะไป
ไปอ่านเลยดีกว่าละกัน
1. เอาแต่เข้าข้างลูกตัวเองอย่างเดียวแบบไม่ลืมหูลืมตา
กรณีนี้เจอตอนที่สอนหนังสือในโรงเรียนมัธยมแห่งแรก คือมีนักเรียนหญิงชั้นม.5อยู่คนหนึ่งคะแนนสอบไม่ผ่าน ติด0 ตอนรวมคะแนนเก็บเพื่อที่จะตัดเกรดเราคิดคะแนนเก็บเด็กคนนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่พอเกรดออกมาเค้ากลับรับไม่ได้ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นก็มาขอซ่อมตามปกติ แต่เด็กคนนี้ให้พ่อโทร.มาบอกเราว่า ลูกเค้ารู้สึกยังไง(เพื่อ??) หาว่าเราลำเอียง เราก็ต้องบอกพ่อเด็กไปว่า"มันก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนค่ะ ในเมื่อคะแนนไม่ถึงก็ต้องมาแก้ 0 แต่สำหรับน้องคนนี้งานซ่อมจะไม่เยอะค่ะ" คือเราต้องใจเย็นและเอาเหตุผลตะล่อมผู้ปกครองให้ได้(สอนทั้งห้องไม่มีปัญหา มีแต่เด็กคนนี้คนเดียวที่จ้องจะปัญหาเยอะกับเรา ไม่รู้เป็นไร)
อีกเคสหนึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้นม.1 ห้องICP(ห้องเรียนโปรแกรมพิเศษภาษาจีน) แค่ตอนสอนเราอาจจะไม่ได้มองหน้าเด็กทุกคน เด็กคนนี้ก็หาว่าเมินใส่(งงมากกกกก เมินตอนไหนวะ??) เพราะเราคิดว่าการสอนแบบมัธยมไม่จำเป็นต้องคอยโอ๋เด็กแบบประถม อีกอย่างไม่ถนัดและไม่ชอบแนวการสอนแบบเด็กๆ ด้วย กลับบ้านคงเอาไปเล่าให้พ่อแม่ฟังแหละ ที่นี้พ่อเด็กบอกว่าจะเอาเรื่องเราถึงผอ.(เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ คราวหลังก็เลี้ยงลูกไว้ในกรงทองปิดตายซะเลยสิ) ไร้เหตุผลมาก ไม่รู้เป็นพ่อคนได้ไง แต่เอาจริงก็ให้แม่เด็กมาโรงเรียนเพื่อที่จะมาเจรจากับเราโชคดีที่แม่เด็กคนนี้มีเหตุผล ไม่เหมือนพ่อมัน เกลียดมากกกกก จากนั้นกลายเป็นคนเกลียดเด็กไปเลย ยิ่งเด็กอายุต่ำกว่าม.ปลายนี่อย่าเฉียดเข้ามาใกล้เลย เกลียด!
2. ยัดเยียดให้เราทำสิ่งที่เราทำให้ไม่ได้
ที่เจอเยอะสุดก็คือ ผู้ปกครองมักจะชอบ Inbox เข้ามาถามเราว่ารับสอนภาษาจีนเด็กเล็กมั้ย ทั้งๆ ที่เขียนไว้ในประกาศชัดเจนแล้วนะว่า "คอร์สเรียนภาษาจีนสำหรับนักเรียนม.ปลาย มหาลัย วัยทำงาน" มีประโยคหรือตัวอักษรไหนที่เขียนว่า "รับสอนเด็กเล็ก" รึป่าว??? หากคุณมีหัวคิดซักนิดต้องรู้แล้วแหละว่าติวเตอร์เค้าไม่ได้รับ ไม่ใช่มา Inbox ถาม ขนาดลงรายละเอียดไปแล้วอย่างละเอียดยิบด้วยนะว่าไม่รับเพราะอะไร ก็ยังส่งข้อความเข้ามาถามกันอีก มีอยู่วันนึง ผู้ปกครองส่ง Inbox มาถามจนแทบไม่ได้กินข้าวเลย พอกำลังจะกินเดี๋ยวก็มีข้อความเข้ามาตลอด จากนั้นชักจะทนไม่ไหวกับความขี้ยัดเยียดไม่เข้าเรื่องของผู้ปกครอง เลยต้องแคปหน้าจอแล้วส่งให้อ่าน จากนั้นก็บล็อคไปเลย น่ารำคาญชะมัด อ่านหนังสือไม่ออกกันรึไง ถามอยู่ได้
3. พูดจาหว่านล้อม+ยัดเยียดให้เราสอน
เคสแรก:
มีผู้ปกครองอยู่คนนึงให้เราสอนลูกเค้า เด็กคนนี้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราไม่รับสอนนักเรียนช่วงอายุต่ำกว่าม.ปลาย ก็ยังจะเอามายัดเยียดให้เราสอน บอกว่า"ลูกพี่น่ารักนะ ใครๆ ก็อยากสอนลูกพี่"(เอ่อ.....ถามเรารึยังว่าเราอยากสอนรึป่าว) พอทดลองเรียนเสร็จแล้วเค้าตัดสินใจจะให้ลูกเค้าเรียนกับเรา ปรากฎว่าพอเรียนเข้าจริงๆ เด็กกลับสื่อสารกับเราไม่รู้เรื่อง สื่อสารภาษาไทยนะ แค่บอกว่า"ให้ถ่ายรูปหนังสือหน้าที่จะให้สอนมา เหล่าซือจะได้ไปเตรียมสอน" แต่เด็กกลับถ่ายรูปหน้าปกหนังสือมา ลำบากใจและเพลียหัวใจตลอดเวลาที่สอน แล้วเนื้อหาที่เด็กเอามาให้สอนเป็นเนื้อหาระดับมหาลัย แต่ให้เด็กป.5เรียน เครียดหนักกว่าเดิมอีก แค่สื่อสารพูดคุยกับเด็กคนนี้ปกติยังลำบากเลยแม่เด็กเอาแต่บอกเราว่าให้พูดจีนกับลูกเค้า เราเลยต้องพูดกับแม่เด็กไปตามตรงว่า "คุณแม่คะ เหล่าซือพูดปกติกับน้องยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยนะคะ พอพูดภาษาจีนกับน้องเค้าก็เอาแต่ตอบว่า不知道ไม่รู้/不懂ไม่เข้าใจ อย่างเดียว แล้วคราวนี้จะให้สอนยังไงคะ ตัวเหล่าซือเองไม่ถนัดสอนเด็กอายุต่ำกว่าม.ปลายเป็นทุกเดิมอยู่แล้วด้วย" แม่เด็กบอกว่า "แม่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่น้องพูดเลยค่ะ" เฮ้อออออ แล้วทำไมคุณไม่หาติวเตอร์ที่เค้าถนัดสอนเด็กประถมที่เรียนอินเตอร์ล่ะ??? ผู้ปกครองแบบนี้น่าจับมาอบรมซักเดือนนึง เอาให้หายเอ๋อไปเลย
เคส2:
เป็นนักเรียนหญิงชั้นม.3 เรียนโรงเรียนอินเตอร์เช่นกัน แม่มาลงคอร์สภาษาจีนพื้นฐานกับภาษาจีนระดับต้นให้ ขนาดบอกผู้ปกครองอย่างละเอียดแล้วนะว่าแนวการสอนเราเป็นยังไง ถ้าเด็กอายุน้อยกว่าที่เรากำหนดเรียนกับเราไปเรื่อยๆ เกรงว่าเด็กจะเครียด เด็กก็ตั้งใจเรียนอยู่แต่พักหลังๆ ชักจะทำตัวไม่ค่อยน่ารัก คือ ให้ทำแบบฝึกหัดก็ไม่ทำ ให้คัดตัวจีนส่งก็ไม่คัด พอให้พักครึ่ง 5 นาทีก็กลับมาเข้าเรียนต่อไม่ตรงเวลา โอเค เราไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะคุณทำตัวเอง พอแม่เด็กมาตามความเคลื่อนไหวในการเรียนของลูกเค้า แม่เด็กบอกว่าให้เราจี้ ให้ดุลูกเค้าได้เลย เราจึงบอกแม่เด็กไปว่า "ไม่จี้ค่ะ นักเรียนควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ค่ะ ถ้าเค้าไม่ทำการบ้านมันก็ไม่เกิดประโยชน์ ใครก็ช่วยเค้าไม่ได้ค่ะ แล้วอีกอย่าง เหล่าซือไม่ถนัดสอนแนวเด็กๆ แบบนี้ด้วยค่ะ" เรื่องไรจะมานั่งจ้ำจี้จ้ำไช ถ้าไม่อยากเรียนกับเราพอหมดคอร์สก็ไปหาติวเตอร์คนใหม่ที่เค้าเคมีเข้ากับลูกคุณได้มาสอนแทนละกัน เบื่อโคตร ผู้ปกครองประเภทนี้
4. เห็นติวเตอร์เป็นพี่เลี้ยงเด็กและคนรับใช้
อันนี้โดนตอนที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เป็นคนแถวบ้านเรา(รวยสะด้วย)ให้ไปสอนลูกเค้าอายุ 9 ขวบ บอกตามตรงนะ กับบ้านนี้โกรธหลายเรื่องมาก ไอ้เราก็เตรียมสอนไปเต็มที่แค่สอนวิชาอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว ไหนยังจะต้องมาเหนื่อยดูแลลูกเค้าเล็กๆ อีก 2 คน ป่วนประสาทมากกกกกก ไหนจะสอนหนังสือ ไหนจะต้องมานั่งโอ๋ลูกคนเล็กที่เข้ามาป่วนเวลาเราสอนให้เงียบ ไหนจะต้องห้ามมวยเวลาที่ไอ้ 3 พี่น้องนี่ทะเลาะกัน พักหลังๆ แม่เด็กใช้ให้เราไปปลุกลูกเค้าขั้นมาจากที่นอนเพื่อมาเรียน เฮ้ย! เราไม่ใช่คนรับใช้นะเว้ย! คุณควรสอนลูกคุณให้รู้จักเวล่ำเวลา ควรให้ลูกคุณตื่นตั้งนานแล้ว และควรอบรมสั่งสอนให้ลูกคุณรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ตนเอง ไม่ใช่เอาภาระที่ไม่ใช่เรื่องมาให้ติวเตอร์ทำแบบนี้ เป็นแม่ประสาอะไร ใช้ไม่ได้เอาซะเลย ตอนหลังเราทนไม่ไหวและโกรธมากจากพฤติกรรมของผู้ปกครองคนนี้ เลยบอกเค้าไปว่าสอนลูกเค้าไม่ได้แล้ว มีงานด่วนต้องทำ(คือกูไม่สอนลูกมึงแล้วนั่นแหละ น่าเกลียดมาก ถ้าต้องการบริการในส่วนนี้ก็จ้างคนรับใช้เพิ่มสิ รวยนักไม่ใช่เหรอ จะจ้างคนใช้เพิ่มซัก 20 คนมันก็แค่เศษเงินของคุณอยู่แล้ว มาจ้างติวเตอร์ทำไม) จากนั้นกลายเป็นคนเกลียดเด็กไปเลย เด็กเล็กๆ นี่อย่าเข้ามาใกล้เลย เดินหนีทันที สำหรับเราเด็กเล็กมันไมได้น่ารัก มันน่ารำคาญและน่าเบื่อมากกกกกกกกก
5. ทึกทักเองเอง ไม่ถามไถ่ที่มาให้ถ่องแท้ก่อน
ถ้าดูจากภาพประกอบคงจะเข้าใจ คือ มีเด็กนศ.มหาลัยปี2 มาทดลองเรียนคอร์สติวสอบHSK5 เราก็สอนตามปกติ แต่พอถึงชม.ที่ 2 ของการทดลองเรียน(ตอนนั้นให้ทดลองเรียนฟรี 2 ชม.) เด็กคนนี้ไลน์บอกเราว่าพ่อไม่ให้ลงคอร์สเรียนกับเราเพราะเราอธิบายเป็นภาษาจีนไม่ได้ คือตรงงนี้มันทำให้เราฟิวส์ขาดทันที ผู้ปกครองรู้ได้ไงว่าเราอธิบายเป็นภาษาจีนไม่ได้ เพราะตอนแรกเค้าไม่ได้บอกก่อนว่าจะให้อธิบายเป็นภาษาจีน เนื่องจากลูกคุณมาทดลองเรียนคอร์สติวสอบเราจึงอธิบายเป็นภาษาไทยเพราะเราอยากให้นักเรียนเข้าใจ แต่ในเมื่อคุณมีทัศนคติแบบนี้เราไม่ขอลดตัวไปข้องเกี่ยวกับกับคนที่เอาแต่มองอะไรแค่ผิวเผินแบบคุณหรอก คุณมันเป็นแค่ผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้(จริงๆ อยากพูดหยาบกว่านี้)
6. ดูถูกความสามารถของติวเตอร์
รายละเอียดย้อนอ่านข้อ 5 คนเรามันไม่ควรมาดูถูกกันแบบนี้หรอก หากคุณอยากรู้ว่าความสามารถเรามีแค่ไหน คุณก็ทดสอบความสามารถเราด้วยตัวคุณเองไปเลยสิ ไม่ใช่มาทำแบบนี้ ที่คุณพูดมาคุณก็ไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วยว่าติวเตอร์ทำไม่ได้ มันเกิดจากความคิดไปเองของคุณทั้งนั้น แล้วก็ไปตัดสินความสามารถคนอื่นแบบไม่พิจารณาอะไรให้รอบคอบก่อน คุณรักลูกตัวเองน่ะถูกต้อง แต่เราก็มีพ่อแม่เหมือนกัน คุณรักลูกสาวตัวเองแต่มาดูถูกลูกสาวคนอื่นแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนสันดารไม่ดี+เห็นแก่ตัวหรอก และอยากบอกนศ.คนนั้นว่า "แย่นะ มีพ่อแบบนี้" แต่เราโชคดีที่พ่อแม่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น
7. ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่
8. เลี้ยงลูกไม่เป็น
จากเคสเด็กป.5 โรงเรียนอินเตอร์ที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง พอลูกเค้ามีพฤติกรรมอยู่อย่างหนึ่งที่ตัวแม่เด็กเองแก้ปัญหาไม่ได้ก็คือลูกเค้าเอาไอดีบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับApple IDไปใช้ซื้อไอเทมในเกมส์ออนไลน์พอเค้าถามลูกเค้าว่าเงินในบัญชีหายไปไหน ลูกเค้าก็ตอบว่าไม่รู้ ไม่ได้เอาไป ผู้ปกครองคนนี้ไลน์มาฟูมฟายกับเราว่าคุณแม่เสียใจมาก เหล่าซือต้องช่วยสอนเค้าด้วยนะคะ เฮ้ย! มันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องสอน คุณเป็นแม่คุณควรสอนควรดูแลลูกคุณเอง ไม่ใช่ผลักภาระมาให้คนอื่น ลูกคุณเองคุณยังดูแลไม่ได้แล้วจะมีลูกทำไม?? มีแล้วก็มาผลักภาระให้คนอื่นแบบนี้ ใช้ไม่ได้ แถมยังมาบอกเราว่าให้เราสอนเรื่องมารยาทให้ลูกเค้าอีก อย่างเช่น เวลาเข้าคลาสเรียนให้สอนลูกเค้าให้ยกมือไหว้สวัสดี อ้าว! แล้วทำไมคุณไม่สอน มันเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ต้องสอน ครูหรือติวเตอร์แค่สอนวิชาถ่ายทอดความรู้ให้ลูกคุณก็เหนื่อยพอแล้วคุณยังจะยัดเยียดลูกมาให้เราอบรมเลี้ยงดูอีกเหรอ?? ไม่คิดว่ามันน่าเกลียดไปหน่อยเหรอ เราไม่ใช่นักจิตวิทยาเด็กหรือจิตแพทย์เด็กนะที่จะได้มาให้คำปรึกษาในการเลี้ยงลูก เป็นแม่คนแล้วควรหัดแยกแยะอะไรให้ออกซะบ้าง ไม่ใช่พอมีลูกแล้วมาเที่ยวบอกคนอื่นว่าไม่รู้จะสอนลูกยังไง ทำแต่งานไม่มีเวลาให้ลูก แล้วคุณจะมีลูกทำไมตั้งแต่แรกล่ะ?? เรื่องแค่นี้คิดไม่เป็นเหรอ??
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่มาทำพฤติกรรมเลวๆ ใส่ติวเตอร์(โดยเฉพาะมาทำกับเรา) ส่วนผู้ปกครองที่ดีและมีเหตุผลก็รักษาความดีนี้ต่อไป
ใครไม่ชอบเลื่อนผ่านไป ขออภัยที่โลกสวยไม่เป็น
-- Tutor Fha --
สนใจเรียนภาษาจีนกับ Tutor Fha Click!